ยกระดับมาตรฐาน งานประกวดรถโบราณ เพิ่มประเภท ปรับปรุงเกณฑ์ตัดสิน

ยกระดับมาตรฐาน งานประกวดรถโบราณ เพิ่มประเภท ปรับปรุงเกณฑ์ตัดสิน
19 Jun 2017
ยกระดับมาตรฐาน งานประกวดรถโบราณ เพิ่มประเภท ปรับปรุงเกณฑ์ตัดสิน

สมาคมรถโบราณฯ มุ่งมั่นสนับสนุนการอนุรักษ์ยานยนต์โบราณในประเทศไทย พัฒนาการประกวดรถโบราณให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ผู้จัด “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 41” ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า เนื่องจากสมาคมฯ เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ยานยนต์โบราณสากล (FIVA) จึงมีพันธกิจที่จะต้องพัฒนาการประกวดรถโบราณให้มีมาตรฐานเดียวกับการประกวดในระดับโลก

IMG_0111ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย

“ดังนั้น ตั้งแต่การจัดงานปีที่ผ่านมา สมาคมฯ จึงแบ่งประเภทการประกวดใหม่เป็น 7 ประเภท ตามกำหนดของ FIVA ได้แก่ ประเภทรถรุ่นบรรพบุรุษ (ก่อน คศ. 1905) ประเภทรถรุ่นผ่านศึก (คศ. 1905-1918) ประเภทรถโบราณ (คศ. 1919-1930) ประเภทรถรุ่นก่อนสงคราม (คศ. 1931-1945) ประเภทรถรุ่นหลังสงคราม (คศ. 1946-1960) ประเภทรถคลาสสิค (คศ. 1961-1970) และประเภทรถคลาสสิคร่วมสมัย (คศ. 1971-ปัจจุบัน -30 ปี)”

3 ประเภทรถโบราณประเภทรถโบราณ (ก่อน 1940) ออสติน เซเวน ชามมี ปี 1929

4 ประเภทรถก่อนสงครามประเภทรถก่อนสงคราม (ปี 1931-1945) เอมจี ทีบี ปี 1939

5 ประเภทรถหลังสงคราม ประเภทรถหลังสงคราม (ปี 1946-1960) เอมจี เอ ปี 1957

6 ประเภทรถคลาสสิคประเภทรถคลาสสิค (ปี 1961-1970) เมร์เซเดส-เบนซ์ 280 เอสอีแอล ดับเบิลยู 108 ปี 1969

7 ประเภทรถคลาสสิคร่วมสมัยประเภทรถคลาสสิคร่วมสมัย (ปี 1971-ปัจจุบัน) (-30 ปี) เมร์เซเดส-เบนซ์ 280 เอสอีแอล 3.5 ปี 1971

 

ยิ่งกว่านั้น สมาคมฯ ยังได้ปรับปรุงเกณฑ์การให้คะแนนใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่การประกวดในปีนี้ ซึ่ง วรกุล บุณยัษฐิติ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ชี้แจงว่า “เดิมที เราจะตัดสินโดยพิจารณาเฉพาะสภาพของตัวรถที่ส่งเข้าประกวดเท่านั้น แต่ปีนี้เราได้เพิ่มการพิจารณาในด้านคุณค่าของตัวรถด้วย เช่น บแรนด์  ปีที่ผลิต ความหายาก และสภาพดั้งเดิม เป็นต้น ซึ่งเป็นเกณฑ์การตัดสินในระดับสากล”
IMG_0109วรกุล บุณยัษฐิติ ประธานคณะกรรมการตัดสิน

ประธานคณะกรรมการตัดสินเปิดเผยถึงรายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนใหม่ว่า แบ่งเป็น 3 หมวด  ได้แก่ หมวด ก. เกี่ยวกับชาติกำเนิดของรถ เช่น คุณค่าของบแรนด์ และรุ่น ปีที่ผลิต คุณสมบัติ และลักษณะพิเศษ ฯลฯ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงของรถ มีค่าคะแนน 40 %  หมวด ข. เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจในตัวรถที่ส่งเข้าประกวดของเจ้าของ มีค่าคะแนน 10 %  และหมวด ค. เกี่ยวกับสภาพรถโดยตรง ทั้งตัวถัง สี เครื่องยนต์ ช่วงล่าง และห้องโดยสาร มีค่าคะแนน 50 %
DSC_5486DSC_5557DSC_5546DSC_5572DSC_5612DSC_5597
“ถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่า คะแนนที่เกี่ยวกับตัวรถในหมวด ก. ด้านข้อเท็จจริง และหมวด ค. ด้านสภาพรถ มีสัดส่วนคะแนนรวมกันถึง 90 % ซึ่งเป็นการยืนยันว่า รถที่คณะกรรมการตัดสินให้ได้รับรางวัล เป็นรถที่มีความเหมาะสมทั้งคุณค่าและความงามอย่างแท้จริง”